โคปา อเมริกา (Copa America) คือการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีประดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุด โดยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1916 ภาพรวมของประวัติศาสตร์มีดังนี้
ต้นกำเนิดและช่วงปีแรกๆ
1916 : โคปา อเมริกา ครั้งแรกจัดขึ้นที่ประเทศอาร์เจนติน่า เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งอิสรภาพของอาร์เจนติน่า มี 4 ทีมชาติเข้าร่วม ได้แก่ อาร์เจนติน่า, บราซิล, ชิลี และอุรุกวัย ในการการแข่งขันครั้งแรก อุรุกวัย สามารถคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ได้
1917-1929 : การแข่งขันนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีหรือทุกๆ 2 ปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอุรุกวัยและอาร์เจนติน่าเป็นผู้นำการแข่งขันในช่วงแรกๆ
วิวัฒนาการและการเติบโต
1930-1950 : การแข่งขันต้องเผชิญกับตารางการแข่งขันที่ไม่ปกติเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และปัญหาด้านลอจิสติกส์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นเหตุการณ์สำคัญในฟุตบอลอเมริกาใต้
1959 : ในปีนี้จัดการแข่งขันขึ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกในอาร์เจนติน่าและอีกครั้งในเอกวาดอร์ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเหมือนในประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์นี้
ยุคสมัยใหม่
1975 : การแข่งขันเปลี่ยนชื่อจาก South American Championship เป็น Copa America รูปแบบถูกเปลี่ยนให้รวมทีม Conmebol ทั้งหมด และใช้กำหนดการที่มีโครงสร้างมากขึ้น
1987-2001 : การแข่งขันมีรอบปกติมากขึ้น โดยจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปีถึง 4 ปี ช่วงนี้มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นและมีการรวมทีมที่ได้รับเชิญจากสมาพันธ์อื่นๆ เริ่มในปี 1993
การพัฒนาล่าสุด
2007 : การแข่งขันโคปาอเมริกาจัดขึ้นที่เวเนซุเอล่า โดยบราซิลคว้าแชมป์
2011 : อุรุกวัยคว้าแชมป์สมัยที่ 15 ในอาร์เจนติน่า กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์โคปาอเมริกาได้มากที่สุด
2015-2016 : ชิลีคว้าแชมป์ติดต่อกัน โดยรุ่นปี 2016 เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ Centenario (ครบรอบ 100 ปี) ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการแข่งขัน
2019 : บราซิลเป็นเจ้าภาพและชนะการแข่งขัน โดยคว้าแชมป์สมัยที่ 9 ไปได้
2021 : เดิมกำหนดไว้สำหรับปี 2020 แต่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การแข่งขันนี้จัดโดยบราซิล หลังจากที่โคลอมเบียและอาร์เจนติน่าถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพร่วมเนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองและความกังวลเรื่องโรคระบาด ตามลำดับ อาร์เจนติน่าคว้าแชมป์สมัยที่ 15 ตรงกับสถิติของอุรุกวัย
รูปแบบและการมีส่วนร่วม
โดยทั่วไปทัวร์นาเมนต์นี้ประกอบด้วยทีมชาติ CONMEBOL 10 ทีม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังรวมถึงทีมที่ได้รับเชิญจากสมาพันธ์อื่นๆ เช่น เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
รูปแบบการแข่งจะแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปจะรวมถึงรอบแบ่งกลุ่มตามด้วยรอบแพ้คัดออก ความสำคัญ โคปาอเมริกาไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันฟุตบอลอันทรงเกียรติเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอเมริกาใต้และประวัติศาสตร์ฟุตบอลอีกด้วย ได้สร้างแมตช์ที่น่าจดจำและผู้เล่นระดับตำนาน ซึ่งมีส่วนอย่างมากต่อความนิยมของกีฬาทั่วโลก ตลอดประวัติศาสตร์ โคปาอเมริกาได้แสดงความสามารถของนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกบางคน และเป็นเวทีสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในภูมิภาคและการแข่งขันฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น
